วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2563

เว็บแทงบอล:' คำแนะนำจากนายเก่า!มูรินโญ่เผยความหมายตะโกนใส่แลมพาร์ด

 ผู้สื่อข่าว เว็บแทงบอล เล่าว่าหลังจากที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ตะโกนใส่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ว่าทีตอนทีมตามหลังอยู่ไม่เห็นออกมาพูดที่ข้างสนามนั้น ล่าสุด มูรินโญ่ ก็บอกว่าตนพูดแบบนั้นเพราะต้องการแนะนำ แลมพาร์ด ว่าควรจะออกมาพูดที่ข้างสนามในตอนที่ทีมกำลังตามหลังอยู่ พร้อมยืนยันว่าความรู้สึกที่มีให้ แลมพาร์ด ยังไม่เปลี่ยนไป

 

    โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรชั้นนำของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยว่าที่ตนตะโกนแบบนั้นใส่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี เป็นเพราะต้องการแนะนำอีกฝ่ายว่าควรจะออกมายืนพูดที่ข้างสนามในตอนที่ทีมตกเป็นฝ่ายตามหลังก็เท่านั้น

    เมื่อวันอังคารที่ 29 กันยายน ที่ผ่านมา สเปอร์ส ได้เปิดรัง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตดี้ยม เจอกับ เชลซี ในเกม คาราบาว คัพ รอบ 4 และสุดท้ายเป็น "ไก่เดือยทอง" ที่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไปจากการชนะในช่วงดวลจุดโทษหลังจากที่จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 อย่างไรก็ตาม หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจของเกมนี้ก็คือการที่ มูรินโญ่ กับ แลมพาร์ด มีปากเสียงที่ข้างสนามกันอยู่บ้าง โดยบางช่วงทั้งคู่ก็ทะเลาะกันดุเดือดสุดๆ ด้วยทั้งที่พวกเขาเคยสนิทกันมากๆ ในตอนที่ยังร่วมงานกันที่ เชลซี

    ทั้งนี้ หนึ่งในสิ่งที่ มูรินโญ่ ตะโกนใส่ แลมพาร์ด ก็คือประโยคที่บอกว่า "ให้ตายสิวะ แฟร้งค์ ทีตอนแกกำลังตามหลัง 0-3 แกไม่เห็นมายืนพูดแบบนี้เลย" โดยมันเป็นการสื่อถึงเกมก่อนหน้านี้ที่ เชลซี ตามหลัง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไปก่อน 0-3 แต่กลับมาเสมอได้ ซึ่งหลังจบเกมไปแล้วนั้น มูรินโญ่ เผยว่าตนตั้งใจจะสื่อว่า แลมพาร์ด ควรจะออกมาพูดที่ข้างสนามแบบนี้ในตอนที่ทีมกำลังเสียเปรียบ ไม่ใช่ในตอนที่ทีมกำลังจะชนะ พร้อมบอกว่าตนยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อ แลมพาร์ด เหมือนเดิม

    กุนซือชาวโปรตุกีสเผยว่า "กับ แฟร้งค์ นั้น ความรู้สึกที่ผมมีต่อเขามันมีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่เราพูดใส่กัน สมัยเป็นนักเตะเขาทุ่มเทให้ผมอย่างเต็มที่อยู่เสมอ และผมก็ไม่เคยลืมเรื่องนั้นเลย ความรู้สึกที่ผมจะมีต่อเขาไปตลอดกาลคือเรื่องที่ว่าผมเป็นหนี้บุญคุณเขาจากการที่เขาเคยเป็นนักเตะชั้นยอดและเป็นเพื่อนที่ดีของผม สิ่งเดียวที่ผมพยายามจะบอกเขาก็คือเวลาที่นักเตะต้องการเรามากที่สุดก็คือตอนที่พวกเขากำลังจะแพ้ มันเป็นเพียงความเห็นที่โค้ชแก่ๆ มีให้กับโค้ชวัยหนุ่มที่มีพรสวรรค์สูงก็เท่านั้น"

    "ในเกมก่อนหน้านี้ที่พวกเขาเคยตามหลัง 0-3 น่ะ ผมเห็นใจเขามากๆ เพราะเขาเศร้าสุดๆ และนั่งนิ่งๆ อยู่บนเก้าอี้ ในแง่ของฟุตบอลนั้นผมไม่สามารถสอนอะไรเขาได้ เขารู้เรื่องฟุตบอลเป็นอย่างดี มันเป็นแค่ความเห็นของผมก็เท่านั้น คุณควรจะมายืนพูดที่ข้างสนามในตอนที่ทีมของคุณกำลังจะแพ้ และอยู่นิ่งๆ ในตอนที่ทีมของคุณกำลังจะชนะ"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น